volvo v40 แฮทช์แบคหรู ที่เป็นดั่งเพื่อนที่รู้ใจผสานเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับขี่อย่างแท้จริง
volvo v40 คือรถที่มีระบบคลื่นเรดาห์เฝ้าระวังอุบัติเหตุจากการปะทะกับรถคันอื่นและผู้คนเดินถนน มีระบบช่วยหยุดรถล่วงหน้า มีระบบเตือนการขับรถเปลี่ยนเลนในภาวะเสี่ยงภัย และมีโครงสร้างนิรภัยและเทคโนโลยีที่ได้คะแนนยอดเยี่ยมสูงสุดเป็นประวัติกาลจาก Euro NCAP รวมถึงสามารถปรับโหมดการขับขี่ได้สามแบบ เป็นรถที่มีระบบหลากหลายคอยแนะนำให้เกิดการขับขี่ที่มีประสิทธิสูงสุด ในทุกจุดประสงค์
อีกทั้งยัง สรรค์สร้างภายใต้แนวคิด ที่ลึกซึ้งหวังกินใจผู้ที่ได้สัมผัสกับรถที่มีคอนเซ็ปปฏิวัติวงการออกแบบรถ ด้วยแนวทางที่ออกแบบมาโดยมุ่งเน้นให้ ทุกองค์ประกอบภายในตัวรถปรับตัวเข้ากับคนขับ แทนที่ จะให้คนขับเป็นฝ่ายปรับตัวเข้ากับรถเอง ซึ่งต่างกับแนวทางในที่ผ่านมา ที่สารพัดค่ายมักออกแบบมาด้วยการให้ผู้ใช้ต้องเป็นฝ่ายเรียนรู้ปรับความคุ้นเคยเอง

โดยล่าสุดเมื่อวันที่12มีนาคม 2556นี้ ทางบริษัท วอลโว่ คาร์ แห่งประเทศไทย จำกัดได้ทำการ เปิดตัววอลโว่ V40 ใหม่ ซึ่งมาในสไตล์ของรถประเภท แฮทช์แบค5ประตู เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับกระแสของรถ แฮทช์แบคที่เติบโตขึ้นทุกวัน โดยในครั้งนี้วอลโว่จะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการ รถแฮทช์แบคที่มีความภูมิฐานสง่างามหรูหรา ผสานเข้ากับ สไตล์ของรถที่ปราดเปรียวดูคล่องตัว โดยรูปลักษณ์ภายนอกของ volvo v40 นั้นจะมีความโดดเด่นในเรื่องของความใหญ่และโอ่อ่า ตามแบบฉบับนิยมของวอลโว่ มองดูรูปลักษณ์จากด้านข้างดูโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตงานตัวถังเส้นสายลวดลายทำออกมาได้เนี๊ยบมาก






มองดูด้านหน้า ดูสง่างามดึงไสตล์ของวอลโว่ ซุปเปอร์ซาลูนมาใช้แบบเต็มๆ
และตกแต่งด้านท้ายรถเป็นอีกอารมณ์นึงที่ ฉีกแบบฉบับเดิมๆของดีไซน์วอลโว่ออกไป ด้วยรูปแบบที่ล้ำสมัยตามเทรนด์ล้ำอนาคตมีเอกลักษณ์เฉพาะและแหวกแนว ที่หลายต่อหลายค่ายกำลังเน้นกันในปี2013 อีกทั้งตัวถังของvolvo v40 ยังมีความปลอดภัยสูง ซึ่งสามารถทำคะแนนรวมได้ในระดับ 5 ดาว จากการจัดคะแนน ทดสอบการชนของ Euro NCAP ซึ่งมาจากการ ได้คะแนนสูงสุด เป็นประวัติการณ์ในทุกหัวข้อของการทดสอบ ที่วอลโว่เคยทำมา ซึ่งประกอบไปด้วย การทดสอบในห้วข้อ การปกป้องผู้ใหญ่, การปกป้องเด็ก ,ระบบเพิ่มความปลอดภัย ,การปกป้องคนเดินถนน ซึ่งพิเศษสุดในการทดสอบ หัวข้อ(Adult Protection)หรือการทดสอบการปกป้องผู้ใหญ่ภายในรถ ที่วอลโว่ v40สามารถทำคะแนนได้98% ซึ่งนับว่าสูงที่สุดด้วย ตั้งแต่เคยมีมาในการทดสอบรถทุกยี่ห้อ จากสถาบัน Euro NCAP




ในด้านของการออกแบบภายในห้องโดยสาร ใช้แนวทางการออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ดูสมัยใหม่เนี๊ยบหรูและสะอาดตา มีการออกแบบคอนโซล ที่เป็นสัดเป็นส่วน ไม่รกตา และยังดูดีด้วยดีไซน์เก๋ๆ ของปุ่มต่างๆและอุปกรณ์ภายใน
นอกจากนี้การออกแบบแผงประตูทำได้ดูดีมาก ใช้โทนสีกลมกลืนกับเบาะนั่ง ซึ่งในส่วนของแผงประตูนั้น เป็นอารมณ์แบบโก้หรูผสมกับความเนียนตา เพราะความกลมกลืนที่ลงตัว โดยองค์ประกอบทั้งหมดในตัวรถ ถือว่าเป็นการทำออกมาจากความตั้งใจพิถีพิถันจริงๆ แม้จะมีความหรูหราแต่ก็ดูเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสมตามคอนเซ็ป“Designed around You” ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง
และปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีนิรภัยที่อัดแน่นอย่างมากมาย ซึ่งเป็นจุดแข็งของรถวอลโว่มาแต่ช้านาน ซึ่งในเทคโนโลยีใหม่ที่ติดตั้งมาให้ด้วย ก็อย่างเช่น ระบบ City Safety ช่วยป้องกันการชนขณะขับขี่ ที่ความเร็วต่ำ ซึ่งระบบนี้จะเป็นระบบมาตรฐานที่ติดตั้งในวอลโว่ v40ทุกรุ่น โดยจากเดิมระบบนี้ ทำงานได้ที่ระดับ30 กม./ช.ม แต่ได้พัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นมาที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ช.ม.
โดยรูปแบบของการทำงาน ในระบบนี้จะเข้าจัดการหยุดรถให้เอง ถ้าหากว่า ผู้ขับขี่ ไม่ทำการแตะเบรกขณะที่รถคันหน้าชะลอความเร็วหรือหยุดรถ หรือแม้แต่ในสถานการณ์ที่ รถพุ่งเข้าหารถคันหน้าที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ด้วยความเร็วสูงเกินกำหนด
นอกจากนี้ยังมีระบบ ระบบ Lane Keeping Aid ที่จะทำงานควบคุมให้รถอยู่ในเลนของตัวเอง โดยในการขับขี่ที่ความเร็วระหว่าง65-200 กม./ช.ม. ระบบนี้จะเริ่มทำงาน ซึ่งหากหัวรถมีลักษณะการเคลื่อนไหวที่พยายาม เบนออกนอกแนวที่เสี่ยงต่ออันตราย ระบบนี้จะส่งสัญญาณ ทำให้พวงมาลัยสั่น เพื่อช่วยเตือนสติ ให้ผู้ขับขี่กลับมารักษาการควบคุมรถให้อยู่ในการเคลื่อนที่ที่ปลอดภัย
และสำหรับในสถานการณ์ ในการเปลี่ยนเลนปรกติ แต่ละครั้งก็ยังจะมีอีกระบบตัวช่วยคือระบบ BLIS ที่ใช้เรดาร์ช่วยในการติดตามและแจ้งเตือน ในสถานการณ์ที่มีรถคันอื่นขับมาจากทางด้านหลัง ซึ่งมาในจุดที่อับสายตาทั้งสองด้าน โดยระบบนี้จะทำการแจ้งเตือนใน ระยะการมีรถคันอื่นเข้าใกล้ในระยะตั้งแต่ 70 เมตร
เท่านี้ยังไม่พอ ยังมี ระบบ Park Assist Pilot ซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยในการจอดรถโดยอัตโนมัติ สามารถที่จะจอดมิดชิดเรียบขนานกับขอบทางได้อย่างแสนสะดวกง่ายดาย ระบบอัจฉริยะนี้จะทำการควบคุมการบังคับเลี้ยวโดยอัตโนมัติเหมือนมีคนมาให้บริการขับจอดให้ โดยที่ผู้ขับขี่เพียงแค่ทำการตั้งค่า กำหนดความเร็วและกำหนดการใช้เกียร์เท่านั้น

อีกทั้งในยามที่ผู้ขับขี่จะทำการถอยรถเพื่อออกจากจุดจอดรถ ก็จะมีระบบ Cross Traffic Alert ซึ่งจะมีเรดาร์คอยส่งเสียงพร้อมทั้งแสดงภาพเตือนหากมีรถคันอื่นวิ่งมาใกล้อยู่ในระยะ 30 เมตรโดยจะทำการตรวจระวังทั้งสองด้านของรถ ซึ่งด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยต่างๆนี้จึงทำให้ สามารถคว้าคะแนน ทดสอบด้านระบบเพิ่มความปลอดภัย (SafetyAssist)จาก Euro NCAP ด้วยคะแนน 100%เต็ม อีกทั้งยังมิใช่แต่เพียงช่วยปกป้องผู้ขับขี่และ ผู้โดยสารเท่านั้น แต่ยังช่วยปกป้องความปลอดภัยให้กับคนเดินเท้า ด้วย ระบบ Lane Keeping Aid ระบบตรวจจับคนเดินเท้า ที่ทำงานร่วมกับ ระบบเตือนจุดอับสายตารุ่นใหม่ BLIS ที่นำมาใช้ในการตรวจระวังคนเดินเท้าได้อีกด้วย
ในแง่ของสมรรถนะvolvo v40 นั้นใช้ขุมพลัง เครื่องยนต์เบนซิน T5 แบบ 5 สูบขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 213 แรงม้าและแรงบิด 300 นิวตันเมตรควบคุมจังหวะการขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด อีกทั้งยังสามารถรองรับการใช้น้ำมันได้หลากหลายแบบ ทั้งเบนซิน 95, E10 และ E20 โดย มีอัตราการใช้พลังงานอยู่ที่ระยะทาง 9.6 กิโลเมตรต่อการใช้น้ำมัน 1 ลิตรในการใช้งานขับขี่ในเมือง แต่หากเป็นการใช้งานบนถนนทางหลวงที่รถวิ่งได้เรื่อยๆ จะใช้น้ำมันอยู่ที่ 17.2 กิโลเมตรต่อการใช้น้ำมัน 1 ลิตร
และมิใช่มีดีแต่แค่เพียงความสวยหรูสง่างามและความปลอดภัยที่เป็นเลิศ แต่เพียงเท่านั้น สำหรับความสนุกในการขับขี่ volvo v40 ใหม่ ยังเป็นรถยนต์ที่เน้นคอนเซ็ป “ Designed around You ” ที่เน้นการปรับตัวเข้าหาผู้ขับขี่ โดยผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับความอิสระในการใช้งานเพิ่มขึ้นด้วย หน้าจอข้อมูลที่สามารถปรับตั้งค่าให้เป็นสไตล์ของตัวเองได้



อีกทั้งยังปรับไปมาอย่างคล่องมือทันใจเพียงแค่โยกคันบังคับที่อยู่หลังพวงมาลัย หน้าปัดดิจิตอลจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการ แสดงผลได้ถึง 3 แบบ คือ แบบ Elegance จะแสดงผลด้วยโทนสีเหลืองซึ่งจัดเป็นค่ามาตรฐานเดิม และที่หน้าปัดดิจิตอลจะแสดงผลแบบ ที่เหมาะสำหรับการขับขี่ปรกติที่มีในรถยนต์ทั่วๆไป ที่มีการจัดตำแหน่ง มีมาตรวัดความเร็ว มาตรแสดงรอบเครื่องยนต์ มาตรแสดงอุณหภูมิเครื่องยนต์ และมาตรแสดงระดับน้ำมันในถัง จัดเรียงกันแบบมาตรฐานสากล
แต่เมื่อทำการปรับเป็นแบบที่สอง คือแบบ Performance หน้าปัดแสดงผลก็จะปรับเปลี่ยน เป็นสไตล์รถแข่ง เข้มด้วยโทนสีแดงอารมณ์สปอร์ต เน้นจุดเด่นสายตาไปที่มาตรวัดรอบเครื่อง และ แสดงความเร็วเป็นตัวเลขดิจิตอล และมีช่องแสดงรายละเอียดมาตรวัดต่างๆและกำลังของรถ คำนวณกำลังของรถได้อย่างละเอียดและแบบวินาทีต่อวินาที
และแบบที่สามคือแบบ Eco ซึ่งเป็นแบบที่ตอบสนอง รองรับการขับในแบบอีโคคาร์ โดยหน้าจอแสดงผลจะแสดงผลด้วยโทนสีเขียว มี Eco Guide ที่เน้นการมอนิเตอร์ ในจุดที่ส่งผลในด้านของการประหยัดน้ำมันอย่าง ตำแหน่งวาล์วปีกผีเสื้อ และยังมีหน้าจอช่วยประเมินความประหยัดน้ำมัน ด้วยการ นำความเร็วและรอบเครื่องยนต์ และ การเบรกของรถ มาคำนวณร่วมกัน เพื่อประเมินออกมาเป็นแนวทางแนะนำ การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพในแง่ของความประหยัดมากที่สุด แสดงออกมาคอยแนะนำผู้ขับขี่

เห็นเทคโนโลยีสุดยอดแบบนี้ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ รถรุ่นนี้ได้ถูก นำมาทำตลาดในประเทศไทยด้วย ซึ่งการที่มีรถที่ใส่ใจ ในเรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัยที่มากขึ้น ใส่ใจกับรถคันอื่นและคนเดินถนนมากขึ้น รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดน้ำมัน ซึ่งรถลักษณะนี้มีส่วนลดเรื่องร้ายๆบนท้องถนนได้แน่นอน หากว่ามีรถแบบนี้ผลิตออกมากันมากขึ้น สำหรับวอลโว่ V40 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 7 เมษายนนี้ ที่อิมแพ็คเมืองทองธานีซึ่งคาดกันว่า ราคาเปิดตัวมีแนวโน้มอยู่ที่ไม่เกิน 2 ล้านบาท
ขอขอบคุณข้อมูลภาพจากบริษัท วอลโว่ มอเตอร์
เนื้อหาข้อเขียนในบทความสงวนลิขสิทธิ์โดย loginlike.com
หาซื้อรถ อยากได้รถ เลือกรถ รถรุ่นไหนดี หรือ ชื่นชอบรถ เสาะหา ข้อมูลรถ ติดตามข้อมูลได้ที่ car.loginlike.com