เทคโนโลยียุคใหม่ของระบบเซ็นเซอร์ HONDA
ในช่วงระยะเวลา3ปีที่ผ่านมา หรือระหว่างปี2011-2013 เทคโนโลยี อ๊อปชั่นที่กลายเป็นมาตรฐาน ติดตั้งกันอย่างแพร่หลายทั่วไปในรถใหม่ๆระดับกลาง ขึ้นไปแทบ ทุกคัน รวมถึงรถนั่งระดับล่าง บางคัน นั่นก็คือ กล้องมองหลัง, ระบบแผนที่นำทาง ,ระบบเชื่อมต่อสื่อเก็บข้อมูลชนิดต่างๆ ,ระบบเชื่อมต่อสมาทร์โฟน,ระบบเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูทและระบบอินเทอร์เน็ท ซึ่งอ๊อปชั่นต่างๆเหล่านี้เป็นผลพลอยได้มาจากการพัฒนาในวงการ ไอที ที่ส่งต่อมาให้วงการยานยนต์ได้ประยุกต์ใช้

จนเข้าสู่ปี2014 สิ่งต่างๆพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดา สำหรับยานยนต์รุ่นใหม่ และไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใดอีกต่อไปแล้ว
แล้วอะไรล่ะที่เตรียมจะเข้ามากลายเป็นมาตรฐานใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มจะติดตั้งกันอย่างแพร่หลาย ในรถสารพัดรุ่นสารพัดยี่ห้อ?
ระบบที่กำลังเริ่ม ใช้กันในรถหลายๆรุ่นและกำลังได้รับ ความนิยมเพิ่มขึ้นในทุกขณะ ในขณะนี้ ระบบหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงนั่นก็คือ
ระบบแจ้งเตือนความปลอดภัย ด้วยระบบเซ็นเซอร์จาก การประมวลผลภาพและการจับคลื่นสัญญาณ นั่นเอง
โดยระบบ ที่ใช้รูปแบบคลื่นสัญญาณ ตรวจจับนั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลากหลายแง่มุม มีรถหลายค่ายที่นำระบบนี้มาติดตั้งไว้ กับรถที่กำลังวางจำหน่าย รวมถึงยังมีการค้นคว้าพัฒนาประสิทธิภาพให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้นในทุกวันอีกด้วย
โดยที่แต่ละค่ายต่างตั้งชื่อระบบของตนเองไว้ไม่เหมือนกัน แต่ รูปแบบก็คล้ายๆกันหรือเหมือนกัน

โดยก่อนหน้านี้ เราได้เคยนำเสนอ เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ ในค่ายวอลโว่มาแล้ว สำหรับครั้งนี้เราจะ มาดูทางค่ายฮอนด้ากันบ้าง
ซึ่งในขณะนี้ ทางค่ายฮอนด้า ดูจะเน้นอ๊อปชั่นเหล่านี้กันเป็นพิเศษ มุ่งนำเสนอเป็นจุดเด่นให้กับบรรดารถในค่ายรุ่นใหม่ๆ
หลังจากที่เคยติดตั้งใน แอคคอดร์ใหม่ มาแล้ว ล่าสุดได้มีการนำอ๊อปชั่นระบบสัญญาณแจ้งเตือนไฮเทค มาเป็นข้อเสนอพิเศษ ที่ลูกค้า ฮอนด้า ซีวิค ใหม่2014 สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้อีกด้วย
โดยอ๊อปชั่นต่างๆมีดังนี้
ระบบ Forward Collision Warning

ระบบนี้ใช้การทำงานร่วมกับกล้องที่ติดตั้งไว้ด้านหน้ารถ ซึ่งจะทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อความเร็วต่ำกว่า 15กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคอยตรวจจับสิ่งกีดขวาง พร้อมส่งสัญญาณแจ้งเตือน เมื่อเข้าใกล้ในระยะห่าง ที่กำหนดเอาไว้ โดยสามารถปรับตั้งระยะการแจ้งเตือนได้
ระบบ City-Brake Active system

ระบบนี้จะทำงานเข้มข้นขึ้น ในการใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง โดยจะเพิ่มการเบรคโดยอัตโนมัติ ในระยะห่างที่ส่อต่ออันตราย แต่ไม่ต้องห่วงว่า มันจะสร้างอันตรายเพิ่มขึ้นด้วยการเบรคกระทันหัน เพราะระบบนี้จะทำงานแต่เฉพาะในความเร็วต่ำจาก30กิโลเมตรต่อชั่วโมงลงไปเท่านั้น โดยมันจะคำนวณเวลา และเบรคอัตโนมัติหลังจาก ระยะเวลาที่เผื่อไว้ให้คนขับแตะเบรคเอง แต่หากยังไม่มีทีท่าตอบสนองใดๆมันจึงจะจัดการเบรคให้เองโดยอัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้จะเริ่มทำงานทุกครั้งหลังจากสตาทร์เครื่องยนต์ แต่อย่างไรก็ตามระบบนี้สามารถปิดได้หากไม่ต้องการใช้งาน
ระบบ Traffic Sign Recognition System

กล้องที่ติดตั้งไว้ด้านหน้ารถนั้นมิใช่ กล้องธรรมดาทั่วไปที่มีหน้าที่เพียงแสดงภาพหรือบันทึกภาพ แต่ทว่ามันยังคอยประมวลผลต่างๆและทำงานอัตโนมัติตามโปรแกรมได้อีกด้วย โดยในกรณีนี้ มันจะทำงานด้วยการ คอยตรวจจับ ป้ายสัญญาณจราจร ซึ่งประมวลป้ายแจ้งเตือนต่างๆ ได้แม่นยำขึ้น จากการสนับสนุนของข้อมูลในซอฟท์แวร์แผนที่GPS ส่งต่อการแสดงผลมายังหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ iMID โดยระบบนี้สามารถตั้งค่าให้แสดงป้ายสูงสุดพร้อมกันได้สองป้าย หรือตั้งค่าให้แจ้งแต่เฉพาะป้ายเตือนใดที่กำหนดไว้ก็ได้
Cross Traffic Monitor

นี่คือระบบ ช่วยในการถอยรถ ที่แตกต่างกับระบบแจ้งเตือนทั่วๆไปตรงที่ มีคลื่นสัญญาณในวงกว้างกว่า และมีลูกเล่นที่ครอบคลุมกว่า อีกทั้งนอกจากการแจ้งเตือนแล้วยังส่งภาพ มาโดยอัตโนมัติ เมื่อมี รถยนต์ เข้าใกล้ โดยจะแสดง ผ่านทางหน้าจอของกล้องมองหลัง หรือแสดง ผ่านทางหน้าจอ iMID โดยจะแสดงควบคู่กับภาพลูกศรช่วยชี้ถึงทิศทางของรถที่อยู่ในระยะ สัญญาณเตือนภัย อีกด้วย โดยระบบนี้จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ เฉพาะในระดับความเร็วไม่เกิน 24 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น
High Beam Support System

ระบบนี้เป็นการนำคลื่นสัญญาณตรวจจับ มาทำงานร่วมกับการปรับไฟต่ำไฟสูงโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะปรับเป็นไฟ ต่ำ เมื่อเข้าใกล้กับรถคันหน้า รวมถึงเมื่อขณะมีรถสวนทาง อีกทั้งระบบไฟรถยังมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดปริมาณแสงสว่างอีกด้วย เมื่อถนนมีแสงสว่างที่มากพอ จะปรับไฟให้ต่ำลง อีกทั้งยังปรับเป็นไฟสูงเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ในเส้นทางที่มีความมืดเป็นอย่างมาก ซึ่งระบบนี้จะ ทำงานที่ระดับความเร็ว 38 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป โดยระบบนี้สามารถเลือกให้ปิดการทำงานได้
Lane Departure Warning

นี่คือระบบช่วยแจ้งเตือนการเปลี่ยนเลนโดยลืมเปิดไฟเลี้ยว ซึ่งจะทำงานผ่านระบบเซนเซอร์ที่ตรวจจับเส้นแบ่งเลน และหากมีการเปลี่ยนเลนโดย ไม่ได้เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะแจ้งเตือนทันที โดยระบบจะเริ่มทำงานในระดับความเร็วตั้งแต่ 62 กิโ,เมตรต่อชั่วโมง ขึ้นไป ทั้งนี้ผู้ขับสามารถปิดการทำงานนี้ได้
Blind Spot Information
